การตั้งครรภ์ของผู้หญิงจะทำให้มีการขยายของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะในขณะที่มีการตั้งครรภ์คุณแม่จะต้องมีการรับประทานอาหารที่เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้คุณแม่หลังคลอดอ้วนและมีหน้าท้องย้วย เป็นปัญหาต่อความมั่นใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นมาเร่งลดหน้าท้องให้กลับมาสวยเหมือนเดิมด้วยกระเป๋าน้ำร้อนลดหน้าท้อง และยังมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้ท่านกลับมามีหน้าท้องที่แบนราบเหมือนเดิม ดังนี้
เคล็ดลับที่จะทำให้หน้าท้องแบนราบ
- ลดหน้าท้องด้วยการเล่นโยคะ
การเล่นโยคะสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดสมดุลมีสุขภาพดีแล้ว บางท่าของโยคะยังสามารถลดหน้าท้องได้ด้วย
- ลดหน้าท้องแขม่วหน้าท้อง
การออกกำลังกายที่สามารถทำได้ตลอดเวลาและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดได้แก่การแขม่วหน้าท้อง เรียกได้ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำได้ การแขม่วหน้าท้องเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น และยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้ด้วย
- ลดหน้าท้องด้วยการไม่นอนดึก
หากคุณนอนไม่ดึกจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงานออกมา เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างง่ายดาย และควรนอนให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
- ลดหน้าท้องด้วยลูกบอลโยคะ
ลูกบอลโยคะจะช่วยให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณท้องโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณแม่มีเวลาว่างๆ แล้วนั่งดูทีวี ก็ลองเปลี่ยนเก้าอี้มาเป็นนั่งบนลูกบอลโยคะ ซึ่งรับรองว่าหน้าท้องหายไปแน่นอน ถ้าจะให้เห็นผลยิ่งขึ้น ลองหลับตาด้วยขณะทรงตัวบนลูกบอล เพราะการหลับตาจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นในการรักษาความสมดุลนั่นเอง
- ลดหน้าท้องด้วยการซิทอัพ พร้อม ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่า การซิทอัพจะช่วยให้หน้าท้องแบนราบ แต่จริง ๆ แล้ว การซิทอัพเป็นการช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้น แต่ไขมันยังคงอยู่ เพราะฉะนั้น ควรซิทอัพพร้อมกับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป
- ลดหน้าท้องด้วยการเต้น
- การเต้นหนึ่งชั่วโมงจะสามารถเผาผลาญได้ถึง 400 แคลอรี่ แถมยังจะช่วยให้คุณสาว ๆ มีเชฟเป็นทรวดเป็นทรงมากขึ้นด้วย หรือใครอยากลดหน้าท้องจริง ๆ ก็หัดเต้น Belly Dance ไปเลย
คุณแม่สามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง หรือจะใช้ทุกวิธีเลยก็ได้ ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้จะต้องควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ซึ่งหากยังใช้ไม่ได้ผลคงต้องพึ่งการทำศัลยกรรมด้วยการใช้วิธีการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อให้หน้าท้องกระชับและแบนราบ และเมื่อทำการดูดไขมันมาแล้วท่านจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อให้สิ่งที่ได้ทำมาคงทนถาวรหรืออยู่ได้นานที่สุด
การดูดไขมันคือการลดน้ำหนัก ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณกำลังเข้าใจผิด การที่คนเรามีน้ำหนักมาก มีไขมันสะสม และมีไขมันส่วนเกินมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะออกกำลังกายพร้อมกับการควบคุมอาหาร ก็ไม่สามารถสลายไขมันหรือกำจัดออกไปได้ ซึ่งในร่างกายของคนเราจะมีส่วนที่ลดได้ยาก เช่น หน้าท้อง แขน ต้นแขน ต้นขา สะโพก ดังนั้นการดูดไขมันจึงเป็นตัวช่วยให้รูปร่างเข้าที่มากขึ้น รูปร่างเรียวและเล็กลง ได้สัดส่วนที่เหมาะสม
การดูดไขมันหน้าท้อง คืออะไร
ปัจจุบันนี้การดูดไขมันได้รับความนิยมไม่แพ้กับการทำศัลยกรรมความงาม ซึ่งการดูดไขมันเป็นเทคนิคการลดไขมัน ที่สะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่เรียกว่าไขมันส่วนเกิน โดยในวันนี้เราขอนำเสนอการดูดไขมันมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
ข้อดีของการดูดไขมัน
- ผู้ที่ได้รับการดูดไขมัน อาจจะมีรอยช้ำบ้างแต่ก็จะค่อย ๆ จางและหายไป
- การดูดไขมันใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
- สามารถนำไขมันที่ดูดออกมาไปเพิ่มในส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้
- สามารถเลือกกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมตามร่างกายเฉพาะจุดได้
ข้อเสียของการดูดไขมัน
- ผู้ได้รับการดูดไขมันจะมีอาการฟกช้ำดำเขียวอยู่ช่วยหนึ่ง
- ผู้ได้รับการดูดไขมันผิวหนังจะเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ผู้ได้รับการดูดไขมันจะต้องมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากการดูดไขมันเป็นกระบวนการผ่าตัดที่มาพร้อมกับความเสี่ยง
- ในช่วงที่พักฟื้นอาจจะมีเลือดไหลและมีอาการเจ็บแผลบ้าง
- อาจมีรอยแผลเป็น
บทสรุป
กระเป๋าน้ำร้อนลดหน้าท้อง เป็นสิ่งที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นคุณแม่หลังคลอดที่มีผนังหน้าท้องที่หย่อนยาน แต่อาจจะไม่ได้ผลดีมากนักหากไม่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย ซึ่งหากอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วท่านต้องใช้เทคนิคทางการแพทย์เข้าช่วยนั่นก็คือการดูดไขมันหน้าท้องซึ่งจะช่วยให้หน้าท้องกระชับได้อย่างรวดเร็ว แต่จะได้ผลดีและถาวรนั้น ท่านจะต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ