ปัญหากลิ่นตัวเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลาย ๆ คน เพราะอากาศบ้านเรามันร้อนและอบอ้าว เวลามีเหงื่อออกมามาก ๆ ก็จะทำให้มีกลิ่นตัว และการมีกลิ่นตัวก็มีกันเกือบทุกคน จะมีมากหรือน้อยเท่านั้น เรื่องกลิ่นตัวจึงเป็นปัญหามากสำหรับทุกคน หากมีกลิ่นออกมาหน่อยก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง และวิธีแก้กลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี วันนี้เรามีคำตอบ แต่ก่อนจะไปดูวิธีแก้กลิ่นตัวเรามาดูว่ากลิ่นตัวเกิดจากสาเหตุไหนกันก่อนดีกว่าค่ะ
กลิ่นตัวเกิดจากอะไร
กลิ่นตัวเกิดมาจากการสร้างต่อมกลิ่น (apocrine gland) ซึ่งกลิ่นเหล่านี้พบมากในบริเวณรักแร้และหัวหน่าวและต่อมกลิ่นมีกันทุกคน และมีมาตั้งแต่เกิด แต่จะเริ่มทำงานในช่วงวัยรุ่น มีหน้าที่ในมนุษย์คือการสร้างกลิ่นซึ่งเป็นลักษณะทางเพศแบบหนึ่ง สารที่หลั่งจากต่อมกลิ่นประกอบด้วย กรดไขมันหลายชนิด (fatty acid, sulfanyl alkanols และ steroid ) มีลักษณะเหลวข้นไม่มีกลิ่น เมื่อหลั่งออกมาด้านนอกของผิวหนังสารดังกล่าวจะถูกเชื้อแบคทีเรีย (Corynebacteria spp.) เปลี่ยนให้เป็นสารที่มีกลิ่นซึ่งคือแอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น
กลิ่นตัวมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
มีผลกระทบอย่างมากก็คือ ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้ และทำให้มีคุณภาพชีวิตลดลง และการที่ไม่ดูแลตัวเอง ไม่รักษาสุขอนามัยที่ไม่สะอาดจะทำให้กลิ่นตัวมากขึ้น
กลิ่นตัวกับกลิ่นเหงื่อต่างกันอย่างไร
ต่างกันที่ว่า กลิ่นเหงื่อหลั่งมาจากต่อมเหงื่อ ส่วนกลิ่นตัวหลังมาจากต่อมกลิ่น แต่ก็มีบางเวลาที่เหงื่อมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ ก็เพราะการรับประทานอาหารประเภทกระเทียม แกง หรือยาบางชนิด ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้โดยหลั่งออกมาทางเหงื่อนั่นเอง
วิธีการแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี
- วิธีการแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเองดังนี้
- ไม่ควรจะทานอาหารที่มีรสจัดเกินไป หรือหากหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเครื่องเทศมากได้ก็ยิ่งดี เพราะอาหารที่มีเครื่องเทศมากจะทำให้เรามีกลิ่นตัวได้
- หมั่นทำความสะอาดชำระล้างกายบ่อย ๆ อย่างน้อยต้องอาบน้ำวันละ 2-3 ครั้งต่อวัน เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จึงทำให้มีเหงื่อไคลมาก และควรจะอาบน้ำให้ทั่วถึงทุกซอกมุมในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดอับชื้นหรือตามข้อพับ และใช้สครับรักแร้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง
- ใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนช่วยในการกำจัดแบคทีเรียในร่างกาย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะกับตัวเองที่สุด หรือจะเน้นพวกสเปรย์หรือแป้งที่ดูดซับความอับชื้นเป็นหลัก
- หมั่นทำความสะอาดและสครับผิวบ่อย ๆ เพื่อขัดเอาเหงื่อไคลที่เกาะติดออก
- ใช้ผงซักผ้าที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และควรนำผ้าไปตากให้แห้งก่อนนำมาสวมใส่
- ใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี จะทำให้เราไม่มีเหงื่อไคลสะสม
- ฉีดโบท็อกซ์บ้าง เพื่อหยุดการทำงานชั่วคราวของต่อมเหงื่อ แต่การฉีดโบท็อกช์จะอยู่ได้แค่ 3-6 เดือนเท่านั้น และที่สำคัญมีราคาสูงอีกด้วย
- อย่าอาบน้ำบ่อยมากเกินไปอาบวันละ 2-3 ครั้งต่อวันก็พอ เพราะถ้าหากเราอาบน้ำหรือทำความสะอาดบ่อยเกินไปก็จะทำให้กลิ่นตัวเลวร้ายลง เพราะมันอาจเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายต้องขับเหงื่อให้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดความชุ่มชื้นมากเกินไป
- กำจัดขนออกบ้าง เพราะขนเป็นสาเหตุของการสะสมแบคทีเรีย
- ไม่ควรขัดผิวบ่อย ๆ เพราะการขัดผิวบ่อย ๆ อาจไปทำลายแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาจทำให้เรามีกลิ่นตัวง่ายขึ้น
- ควรใช้แป้งมากกว่าโรลออน เพราะแป้งเมื่อโดนเหงื่อเข้าไปก็จะละลายกลายเป็นเหงื่อจะไม่มีกลิ่นเหม็น แต่หากเราโรลออนเวลาผสมกับเหงื่อแล้วจะมีกลิ่นเหม็นได้
- การใช้น้ำยาระงับกลิ่นกาย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแกไขปัญหากลิ่นตัวได้แบบตรงจุดที่สุดโดยน้ำยาระงับกลิ่นกายเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ เพราะกลิ่นกายเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้ามาผสมกับเหงื่อ หากเราใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย กระบวนการที่ทำให้เกิดกลิ่นก็จะไม่เกิดขึ้น และน้ำยาระงับกลิ่นกายบางยี่ห้อยังมีสารระงับเหงื่อที่ผสมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยเข้าไปจัดการกับเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมา ทำให้เราไม่มีกลิ่นกาย นอกจากนี้น้ำยาระงับกลิ่นกายทั้งหลายก็มักจะใส่น้ำหอมเข้าไปด้วย ทำให้เรามีกลิ่นตัวหอมๆ แทนกลิ่นเหงื่อและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
- การใช้ยาระงับเหงื่อ คุณจะต้องเลือกใช้ยาระงับเหงื่อที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะการใช้ยาระงับเหงื่อที่มีส่วนผสมของน้ำหอมจะทำให้รักแร้ดำจากผื่นได้ โดยยาทาชนิดนี้จะไปทำปฏิกิริยาให้เกิดการอุดตันในท่อเหงื่อและลดการไหลของเหงื่อได้ ทางที่ดีคุณควรไปพบแพทย์เพื่อสั่งยาที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมคลอไรด์ 20% สำหรับทาระงับเหงื่อ
- ควรใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เพราะสารสกัดจากธรรมชาติสามารถระงับกลิ่นตัวของคุณได้เช่น สารส้มสามารถช่วยระงับกลิ่นกายได้อย่างอยู่หมัด หรือจะใช้สารส้มสะตุนำมาผสมกับพิมเสนอย่างละเท่า ๆ กัน บดให้ละเอียด แล้วผสมแป้งฝุ่นหรือดินสอพอง หยดน้ำลงไปนิดหน่อย แล้วนำมาใช้ทารักแร้ก็ได้
- ปูนแดง เป็นของที่หาง่าย และสามารถใช้ระงับกลิ่นกายได้ โดยการเอาปูนแดงมาผสมน้ำแล้วทารักแร้หลังอาบน้ำ หรือจะใช้ปูแดงกับตำลึงนำมาตำแล้วพอกรักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก เพราะปูนแดงมีความเป็นด่างช่วยกำจัดแบคทีเรียออกมาจากผิวหนังของคุณได้ และทำให้คุณไม่มีกลิ่นตัว
- เบคกิ้งโซดาก็เป็นของหาง่าย มีขายตามท้องตลาด และมีสรรพคุณที่ช่วยขจัดกลิ่นตัวได้ โดยนำเบคกิ้งโซดามาผสมกับน้ำพอค้นแล้วนำมาทาบริเวณรักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก เบคกิ้งโซดาจะช่วยลดกลิ่นตัวและทำลายแบคทีเรียที่อยุ่ในตัวคุณได้
- ใบสะระแหน่ เป็นสมุนไพรที่สามารถระงับกลิ่นตัวให้กับคุณได้ โดยนำใบสะระแหน่มาผสมกับน้ำเปล่าแล้วลงไปแช่ประมาณ 10 นาที ซึ่งน้ำมันสกัดจากใบสะระแหน่นี้จะมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า และขจัดกลิ่นตัวได้ดี
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการกำจัดกลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และหากคุณทำได้ตามนี้ และทำติดต่อกันเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากลิ่นตัวจะไม่มากวนใจคุณอย่างแน่นอน ถึงแม้คุณจะเป็นคนที่มีเหงื่อเยอะก็ตาม