ลดหน้าท้องแบบไม่ออกกำลังกาย ปัจจุบันมีทั้งลดแบบธรรมชาติ และลดด้วยวิธีศัลยกรรม ซึ่งแต่ละแบบก็มี ข้อดีและผลลัพธ์แตกต่างกันไป
การลดหน้าท้องแบบไม่ออกกำลังกายโดยวิธีธรรมชาติ
- ก่อนทานอาหารควรหาอะไรร้อน ๆ รองท้องก่อน เพราะสามารถช่วยลดความอยากอาหารของคุณได้
- การรับประทานอาหารรสเผ็ด สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารของคุณได้ถึง 8% และเป็นการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีของร่างกายไปในตัว และการกินอาหารรสเผ็ดยังช่วยให้กินอาหารได้ช้าลง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเผาผลาญด้วย
- การพักผ่อนที่เพียงพอและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับร่างกายของคุณที่จะทำงานได้ดี และควรนอนในห้องที่อุณหภูมิประมาณ 19 องศาเซลเซียสเผาผลาญแคลอรีมากกว่าผู้ที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 22 องศาเซลเซียส ประมาณ 7%
- การดื่มชาเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะชาเขียว เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วยลดน้ำหนักได้ และช่วยป้องกันมะเร็งด้วย
การลดหน้าท้องแบบไม่ออกกำลังกายโดยวิธีศัลยกรรม
การผ่าตัดหนังหน้าท้องหรือการดูดไขมัน ถือเป็นการศัลยกรรมด้วยกันทั้งคู่ เพื่อลดขนาดหน้าท้อง ให้กลายเป็นหน้าท้องที่แบนราบได้
การผ่าลดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck หรือ Abdominoplasty)
การตัดไขมันหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันและผิวหนังส่วนที่เกินบริเวณหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันและผิวหนังส่วนที่เกินบริเวณหน้าท้อง รวมทั้งการแก้ไขกล้ามเนื้อหน้าท้องที่หย่อนยาน จะช่วยให้หน้าท้องดูตึงขึ้น โดยจะทำการผ่ากรีดบริเวณใต้หน้าท้อง เพื่อนำไขมันส่วนเกินออก หลังจากนั้นจะดึงกล้ามเนื้อให้กระชับ โดยจะมีด้วยกัน 2 แบบคือ
- การผ่าตัดไขมันหน้าท้อง แบบย้ายสะดือและเย็บแก้ไขกล้ามเนื้อหน้าท้อง(Abdominoplasty)
วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่หน้าท้องหย่อนมีไขมันมาก และหน้าท้องแตกลายจากการคลอดบุตร จำเป็นต้องผ่าตัด ด้วยวิธีการดมยาสลบ โดยศัลยแพทย์จะทำการตรวจความหย่อนของกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อวางแผนการผ่าตัด จากนั้นจะกำหนดตำแหน่งแผลบริเวณหัวเหน่า เปิดแผลผ่าตัดผ่านชั้นของผิวหนังและไขมันจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ เลาะผังพืดระหว่างชั้นของไขมันและกล้ามเนื้อ เปิดเลาะไปจนถึงใต้ราวนม จะเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนอย่างชัดเจน เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องตั้งแต่ใต้ราวนมจนถึงหัวเหน่า ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องตึงกระชับ ดึงชั้นผิวหนังและไขมันหน้าท้องลงมา ตัดส่วนเกินที่อยู่ตั้งแต่แนวบนสะดือเดิมถึงหัวเหน่าออก เย็บและตกแต่งแผลชั้นของไขมันด้วยไหมละลาย และเจาะรูสะดือใหม่ แล้วเย็บตกแต่งสะดือให้ละเอียดสวยงาม เพื่อป้องกันแผลเป็นในสะดือ ตัดและเย็บผิวหนังส่วนเกินให้สวยงามตามแนวบริเวณหัวเหน่า การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- การผ่าตัดไขมันหน้าท้อง แบบไม่ย้ายสะดือ(Mini Abdominal Lipectomy)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่มาก แต่หน้าท้องลาย จุดประสงค์เพื่อต้องการแก้ไขหน้าท้องลายเท่านั้น สามารถผ่าตัดโดยการฉีดยาชาหรือภายใต้การดมยาสลบ หลังผ่าตัดเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้ แพทย์จะตรวจสอบความหย่อนของกล้ามเนื้อหน้าท้อง แล้ววางแผนการผ่าตัด เปิดแผลบริเวณหัวเหน่าเปิดเลาะผังพืดที่อยู่ระหว่างชั้นของกล้ามเนื้อและไขมัน เปิดเลาะขึ้นไปจนถึงใต้สะดือ ดึงชั้นของผิวหนังและไขมันลงมาแล้วตัดส่วนเกินออก หลังจากนั้นเย็บและตกแต่งแผลให้สวยงาม
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
ปรึกษาศัลยแพทย์ถึงสิ่งที่คาดหวัง และผลการผ่าตัดที่จะเป็นไปได้ ทำการตรวจสุขภาพ ตรวจร่างกาย ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน หยุดการสูบบุหรี่ ก่อนและหลังผ่าตัด 2 อาทิตย์ หยุดยา ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามินบางชนิด สมุนไพรก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์
การดูแลแผล หลังผ่าตัดไขมันหน้าท้อง
หลังจากผ่าตัดแล้ว 2-3 วัน ควรใส่ผ้ารัดหน้าท้องแบบเต็มตัวเพื่อกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องตลอดเวลาทุกวันอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้นให้ใส่เฉพาะกลางคืนเพื่อพยุงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เย็บกระชับให้แข็งแรง ไปตามแพทย์นัดเพื่อติดตามผล เมื่อครบ 6 วัน ตัดไหม และตรวจเช็คแผลอีกครั้ง หากไม่มีอะไรแผลจะยุบบวมและหายเป็นปกติประมาณ 3-4 เดือน
ส่วนการดูดไขมัน (Liposuction) เพื่อลดหน้าท้อง
เป็นการลดไขมันเฉพาะส่วน ไม่ใช่การลดความอ้วน การลดไขมันที่สะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าเปิดแผลกว้างในการดึงชั้นไขมัน แต่จะทำเพียงรอยเจาะช่องเล็ก ๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม แล้วใช้เครื่องมือสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง ในระดับชั้นไขมัน เพื่อดูดสิ่งที่ต้องการ ซึ่งคือไขมันออกมา