ปากกระจับลิฟกราฟ ถือเป็นเทคนิคในการทำปากกระจับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ตรงตามความต้องการของสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปากลักษณะบาง หรือต้องการเพิ่มความคมชัดให้กับริมฝีปากของตนเอง เพิ่มความสวยของริมฝีปากได้ดีเลยทีเดียว ถือว่าตอบโจทย์ให้กับสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ริมฝีปากของคุณสวยได้ดังใจ เกิดผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากที่สุด
Lip graft คืออะไร
คือ การผ่าตัดโดยการตัดเนื้อบริเวณริมฝีปากด้านในออก แล้วน้ำเนื้อที่โดนตัดออกมาบางส่วน เพื่อยึดติดเข้ากับส่วนกลางของริมฝีปากด้านใน บริเวณที่เป็นทรงกระจับ เพื่อทำให้ส่งที่ออกมาสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยเทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ปากบางต้องการให้ปากเป็นรูปทรงกระจับ เพื่อให้เกิดความสวยงามและดูปกติมากยิ่งขึ้น
สาว ๆ ที่มีปากบางสามารถทำปากกระจับ ได้หรือไม่
กรณีที่สาว ๆ ที่มีปากบาง เกิดความสงสัยว่า ปากบางทำปากกระจับได้ไหม ซึ่งสาว ๆ ควรเข้ามาปรึกษากับทางคลินิกก่อน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาสัดส่วนโดยรวมของปากบน ปากล่าง สัดส่วนเมื่อเทียบกับโครงสร้างใบหน้า ทั้งหมด นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาเรื่องกระดูกเหงือก สภาพเหงือกและฟันควบคู่กันไปอีกด้วย หากไม่มีปัญหาใด ๆ ที่เป็นข้อห้ามและต้องระวังเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่มีปากบาง ก็สามารถศัลยกรรมปากกระจับได้ และในส่วนของติ่งกระจับ คุณหมอก็สามารถ สร้างติ่งกระจับถาวร โดยใช้กล้ามเนื้อมาปลูกถ่าย สามารถให้ทรงปากของคนไข้สวยงามยิ่งขึ้นได้
ผลข้างเคียงหลังการทำศัลยกรรมปากกระจับ
- หลังการผ่าตัดในช่วงสัปดาห์แรก บริเวณแผลผ่าตัด จะมีอาการบวมและตึงมากที่สุด และหลังจากนั้นประมาณวันที่ 3 ของการผ่าตัด อาการบวมก็จะลดลงไปได้
- มีอาการชาที่ปาก การรับรู้และความรู้สึกที่ปากขาดหายไปบางส่วน ใช้เวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีในการกลับมาเป็นปกติ
- มีไตเนื้อแข็ง เกิดขึ้นที่ริมฝีปาก เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุกเคส มักเกิดขึ้นหลังการตัดไหม ใช้เวลา 3 ถึง 6 เดือนในการกลับมาเป็นปกติ
- เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ (อยู่ที่ความชำนาญในการเย็บแผลของหมอ)
- ประกบปากไม่สนิทในช่วงแรก รู้สึกแปลก ๆที่ปาก บังคับริมฝีปากลำบาก
ความเสี่ยงหลังทำปากกระจับ
การทำปากบางได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลต่อบุคลิกหน้าตาของสาว ๆ ให้ดูดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งก่อนการศัลยกรรมปากกระจับ ควรศึกษาผลกระทบหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด หากเราทำตามคำแนะนำของแพทย์
- ปากบางมากเกินไป ในกรณีที่สาว ๆ ต้องการอยากได้ปากทรงกระจับ หากตัดออกมากจนเกินไปจะทำให้เวลายิ้มนั้นไม่เห็นว่ามีริมฝีปากบนเหลืออยู่ และเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนบริเวณปากก็ลดน้อยลง ยิ่งทำให้ปากยิ่งบางลงไปอีก การศัลยกรรมปากให้บาง ควรตัดให้ได้รูปกำลังพอดี อย่าตัดมากจนเกินไป
- ปากสองด้าน (ซ้าย-ขวา) ไม่เท่ากัน อาจจะเกิดจากพื้นฐานเดิมของคนไข้ที่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว พอแพทย์ตัดออกเท่ากันทั้งสองด้าน ยิ่งทำให้เห็นชัดว่าไม่เท่ากัน หรืออาจจะเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ที่ตัดสองข้างออกมาได้ไม่เท่ากัน
- มีรูปทรงที่ไม่เป็นธรรมชาติ การศัลยกรรมที่สวยนั้นต้องให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด แต่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่นหลังศัลยกรรมปากมาแล้ว ติ่งตรงกลางปากนั้น แหลม และยื่นออกมามากจนเกินไป ซึ่งแน่นอนปากที่สวยแบบธรรมชาติไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน แต่หลาย ๆ คนอาจจะชอบก็เป็นได้
- หุบปากไม่สนิท การที่ตัดเนื้อปากออกไปแล้ว หลายคนกำลังประสบปัญหา การหุบปากไม่สนิท เวลาจะหุบปากทีก็ต้องเกร็งกล้ามเนื้อ เพื่อให้ปากบนกับปากล่างมาประกบกัน บางคนถึงแม้ปากบนกับปากล่างประกบกันแล้ว ยังเห็นช่องว่างระหว่างปากบนกับปากล่างอยู่ คือผลจากที่ทำกระจับมากจนเกินไปนั่นเอง
- ยิ้มเห็นเหงือก ผลจากการตัดเนื้อริมฝีปากมากจนเกินไป นอกจากจะทำให้ดูแปลก ๆ เวลายิ้มแล้ว ยังทำให้เห็นเหงือกมากขึ้นเนื่องจากเนื้อริมฝีปากที่เคยมีและบดบังเหงือกไว้ ได้หายไปแล้วนั่นเอง
- ปากแข็งเป็นไต ทำให้เวลายิ้มรู้สึกตึง จะทำให้เหมือนแสยะยิ้ม ด้านซ้าย-ขวาสองข้างไม่เท่ากัน และทำให้เวลาสัมผัสก็จะรู้สึกเป็นก้อนแข็ง ๆ บริเวณริมฝีปากได้
- รอยแผลเป็น การผ่าตัดทุกชนิด ย่อมเกิดรอยแผลเป็น การผ่าตัดศัลยกรรมริมฝีปากเองก็เช่นกัน ยังมีความเสี่ยงที่เห็นรอยแผลเป็นได้
ความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมนั้น ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญ ศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสีย หากต้องการผลลัพธ์ที่ออกมาตรงตามความต้องการ ก็ต้องศึกษาหาข้อมูล เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่จะตามมาด้วย ปากที่ตัดไปแล้วนั้น ไม่สามารถนำกลับมาได้อีกต่อไป