คนเราเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น การเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็น้อยลง ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน ตามบริเวณ
ต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง สะโพก ก้น ต้นขา ต้นแขน คอ ซึ่งการสะสมของไขมันจะทำให้รูปร่างของคนเราเปลี่ยนไป มองดูไม่สวยงามเหมือนเมื่อตอนที่ยังมีอายุน้อยอยู่ การดูดเอาไขมันออก สามารถลดหน้าท้องต้นขาสะโพกได้
ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การดูดไขมันไม่ใช่การลดความอ้วน แต่เป็นการขจัดไขมันสะสมเฉพาะจุด ออกเท่านั้น สามารถขจัดไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดังนี้
ดูดไขมันส่วนใดได้บ้าง
- ดูดไขมันต้นขา
การที่มีต้นขาใหญ่เป็นเพราะมีไขมันมาสะสมจำนวนมาก ทำให้ใส่เสื้อผ้าไม่สวยงาม การลดต้นขาที่ดีที่สุดคือการดูดไขมันต้นขา เพราะทำได้สะดวก รวดเร็ว และได้รูปทรงที่สวยงาม
- ดูดไขมันหน้าท้อง
การที่มีหน้าท้องใหญ่และหย่อนยานก็เนื่องมาจากหน้าท้องเป็นแหล่งสะสมไขมันอีกหนึ่งจุด การดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อขจัดไขมันส่วนเกินออก ก็เพื่อให้รูปร่างสมส่วนดูดีมีความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
- ดูดไขมันสะโพก และก้น
สาว ๆ ที่มีก้นและสะโพกที่ใหญ่ย้อยจนเกินไปทำให้มีรูปร่างที่ไม่สวยงาม การดูดไขมันสะโพกและก้นเป็นการขจัดไขมันส่วนเกินออก เพื่อให้มีรูปร่างที่สมส่วนสวยงาม ทำให้เกิดความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้ามากขึ้น
หน้าท้องต้นขาสะโพก ทำไมจึงมีไขมันเยอะ
บทความแนะนำ ฉีดไขมันที่หน้าราคา จากเว็บไซต์ Rattinan.com
เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญไขมันของคนเราจะน้อยลง เกิดการสะสมไขมัน และน้ำหนักมากขึ้น ในเพศหญิง การสะสมไขมันจะอยู่ที่สะโพก ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ส่วนเพศชายจะสะสมที่หน้าท้องเป็นส่วนใหญ่
- เกิดจากความเครียดเรื้อรัง ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติโซลในกระแสเลือด ไขมันจึงไปสะสมที่หน้าท้อง
- การหมดประจำเดือนในเพศหญิง ทำให้ปริมาณของเอสโตรเจนฮอร์โมนลดลง ทำให้เกิดการสร้างและสะสมไขมัน บริเวณหน้าท้อง ก้น และต้นขา
- การใช้ชีวิตประจำวันซึ่งปัจจุบันนี้มักไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย นั่งทำงานตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการสะสมไขมันหน้าท้อง ต้นขา และแขนได้
- เกิดจากกรรมพันธุ์ที่มาจากยีนส์ของแต่ละคนมีการเผาผลาญอาหารได้น้อยกว่าปกติ จึงเกิดการสะสมไขมันที่บริเวณดังกล่าว
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดดูดไขมันหน้าท้องต้นขาสะโพก
- ผู้ที่ร่างกายมีดรรชนีมวลกาย ไม่เกิน 30 (BMI <30) ถ้าดรรชนีมวลกายเกิน 30 อาจจะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ว่าสามารถทำได้แค่ไหน
- ผู้ที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่ไม่สามารถขจัดไขมันในบางบริเวณออกไปได้
- ต้องไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายต่อการผ่าตัดดูดไขมัน
- ต้องไม่สูบบุหรี่
- เป็นผู้ที่มีผิวหนังที่ค่อนข้างตึง ไม่เหี่ยวย่น
- ผู้ที่เคยเข้ารับการดูดไขมันแล้ว แต่ต้องการความชัดเจน สามารถทำได้แต่อาจได้รับผลที่ไม่ค่อยดีเท่ารายที่ไม่เคยทำมาก่อน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดูดไขมัน
- ท่านจะต้องเข้ารับคำปรึกษาศัลยแพทย์ และ วิสัญญีแพทย์
- แพทย์จะทำการตรวจเลือดและตรวจร่างกาย ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน
- ทานยาหรือปรับยาตามแพทย์แนะนำเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด
- ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องหยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร เพราะอาจจะทำให้เลือดออกมากขึ้นได้
- ท่านจะต้องเตรียมตัวลางานล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังผ่าตัดดูดไขมันต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 1-2 วัน
ขั้นตอนการผ่าตัดดูดไขมัน
- ในกรณีที่ดูดไขมันออกเพียงจุดเดียว แพทย์จะกำหนดตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันออก
- หากผู้ต้องการดูดไขมัน และมีไขมันเป็นจำนวนมาก แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกด้วยการให้ดมยาสลบ แต่ในกรณีที่มีไขมันไม่มากจะใช้แบบยาชาแทน
- แพทย์จะทำการเจาะผิวหนังขนาด 5 มิลลิเมตร เพื่อใส่เข็มดูดไขมัน และทำการดูดด้วยเครื่องดูดไขมัน
- เมื่อเสร็จสิ้นการดูด ไขมัน แพทย์จะเย็บปิดแผลซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 1-2 เข็มเท่านั้น
- ระยะเวลาของการดูดไขมันจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณของไขมัน
- แพทย์จะใช้ผ้ายืดพันรอบบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อเป็นการกระชับผิวหนังด้านในที่เกิดช่องว่างที่นำไขมันออกมา
การดูแลหลังผ่าตัดดูดไขมัน
- หลังการผ่าตัดจะมีน้ำเหลืองไหลซึมออกมา ซึ่งจะซึมออกมาเรื่อย ๆ ประมาณ 4 – 5 วัน ก็จะหยุดไหลไปเองให้
- ท่านจะต้องทำแผลบริเวณที่ดูดไขมันทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งและไม่มีน้ำเหลืองซึมออกมา
- หากน้ำเหลืองที่ซึมออกมาไม่หายไปใน 4 – 5 วัน และมีอาการเจ็บปวด บวมแดง เพิ่มขึ้น ควรมาพบศัลยแพทย์ทันที
- ใส่ชุดรัดกล้ามเนื้อ(Compression Garment) สำหรับรัดตรงบริเวณที่ทำการดูดไขมันออก เป็นเวลา อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดใหม่ เพื่อลดอาการบวม
- หลังทำการดูดไขมันจะมีการบวมขึ้นของบริเวณที่ดูด โดยการบวมจะเกิดขึ้นประมาณ 3-4 อาทิตย์ หลังจากนั้นจะหายสนิทดีในระยะ 3 – 4 เดือน
- เพื่อช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น แพทย์จะทำการนวดไล่น้ำเหลืองเบา ๆ หลังผ่าตัด 3 วัน
- ท่านจะต้องมีการเคลื่อนไหวทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์ สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้
- หลังการผ่าตัด 2 – 3 วัน สามารถอาบน้ำได้
- เมื่อครบ 1 สัปดาห์ แพทย์จะนัดตัดไหม ท่านต้องมาตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง
บทสรุป
ลดหน้าท้องต้นขาสะโพก การดูดไขมันถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เป็นทางลัดสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อท่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายควบคู่กันไป อย่างไรก็ตามการที่ท่านจะเข้ารับบริการการดูดไขมันท่านจะต้องศึกษาหาข้อมูลสถานพยาบาลและแพทย์ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อจะได้ไม่เสียใจภายหลังเข้ารับบริการ